วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ชีวิตแบบหนุ่มภาคคอม ^^

วันนี้ผมตื่นมาแต่เช้า คงเป็นเพราะว่าเมื่อคืนนี้ผมพยายามจะข่มตานอนตั้งแต่เก้าโมง แสงแดดส่องลอดผ้าม่านเข้ามาทางหน้าต่าง แต่อากาศเย็นซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่คุ้นเคยเลย อาจเป็นเพราะว่าผมไม่เคยตื่นเช้าก็ได้ แต่ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนว่า ผมเป็นเด็กมหาลัยคนนึง ที่เรียนหนักจนแทบจะไม่มีเวลาที่จะไปเที่ยวไหนต่อไหนแบบวัยรุ่นคนอื่นๆ แต่ใช่ว่าเรียนหนักแล้วจะทำให้ผมไม่มีเวลาที่จะคิดเรื่องต่างๆ ผมนั้นชอบคิดเรื่องราวต่างๆไปเรื่อยแหละ บางครั้งก็คิดจนกระทั่งผมไม่ได้อ่านหนังสือไปเลย นี่เป็นเรื่องราวคร่าวๆของผม ไว้อ่านเรื่องราวต่างๆไปเรื่อยๆคุณก็จะรู้เองล่ะว่าผมเป็นยังไง กลับมาที่เดิมผมยังไม่อยากที่จะลุกไปไหนเลย ร่างกายรู้สึกเหนื่อยไปหมด ไม่อยากที่จะทำอะไรอีกแล้ว เอาล่ะ!!! ขอหลับต่ออีกนิดละกัน งีบเดียว...

เย้ย...ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา ตามองไปที่นาฬิกา "ว่าแล้ววว"เก้าโมงครึ่ง เรามีเรียนเก้าโมงนี่หว่า ตั้งแต่เปิดเทอมยังไม่มีวันไหนไปเรียนทันเลยนี่หว่า ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวทันที "เปิดดูทีวีก่อนจะทันไหมหว่า เรื่องเล่าเช้านี้ ทักทายสรยุทธ์หน่อยละกัน" ผมคิดเล่นๆ และลองเปิดทีวีดู เย้ย สี่สาว นี่หว่า แถมกำลังจะจบแล้วด้วย สายโคตรๆแล้วสินะเรา งานเข้าทันทีผมเลยรีบปิดทีวีแล้วออกไปมหาลัยทันที จะไปยังไงดีล่ะวันนี้ รถก็เยอะ กะจะไปมอไซด์แทน แต่หลายๆวันก่อนผมเพิ่งทำเขาโดนตำรวจจับเองนี่หว่า (เรื่องราวประมาณว่าผมรีบไปสยามจัด เลยเรียกมอไซด์ไปแต่เขาโดนตำรวจเรียก ซวยเพราะผมแท้ๆ - -" ) เอาไงดีหว่า ถ้าเกิดเรียกแล้วดันได้คนเดิมแล้วมันเกิดแค้นฝังหุ่นล่ะ ขับๆไปยกล้อแล้วบิดหนีไปเลย ชิชะ ขึ้นแท็กซี่แทนก็ได้หว่า ไม่ง้อละ ฮ่าๆๆ กลัวตายเป็นค้าบบบบ... ผมเลยรีบเรียกแท็กซี่แล้วไปเรียนเลยทันที

ทันทีที่ถึงมหาลัย ผมรีบเดินเรียนทันทีที่ห้องเรียน แหนะ ดันนึกห้องเรียนไม่ออกอีก -*- ขนาดเรียนมาหลายอาทิตย์แล้วนะเนี่ย เอาวะ เดินเข้าไปซักห้องละกันเด๋วก็ใช่เองแหละ ผมรีบเดินไปชั้นสามทันที นั่นแน่ ใช่ด้วยห้องนี้แหละ ผมแอบภูมิใจกับเซ้นส์ในการเดาของตัวเองนิดหน่อย เพราะว่ามันอาจเป็นเหตุผลที่ทำไมผมจึงได้มาเรียนที่นี่ ระหว่างคิดผมจึงรีบเดินเข้าห้องไปทันที สายตาทุกคนเริ่มมองมาที่ผม หลายๆคนคงคิดในในว่า ไอ้นี่อีกแหละ มันมาสายได้ทุกวันจริงๆ เอาน่า...ก็บ้านตูใกล้สุดแล้ววะ เป็นธรรมดา ผมตอบในใจให้คนอื่นๆ

เวลาผ่านไปสักพัก ผมเริ่มรู้สึกว่า "เข้ามาทำกากอะไรในห้องวะเนี่ย เรียนไม่รุเรื่องเลย" และแล้วก็หมดไปหนึ่งคาบ >< ช่วงเวลานี้แหละ ได้กินข้าวแล้ว!!!!! ช่วงเวลากินข้าวของผมมักจะแตกต่างจากเพื่อนสักหน่อย คงเป็นเพราะว่าผมตื่นเช้าสะนี่กระมั้ง (เป็นมื้อระหว่างเช้า กับ เที่ยง งั้นขะขอเรียกว่า มื้อเท้า มื้อเชี่ยง แหะๆ ไม่ดีมั้ง ขอเรียกว่า มื้อสายแทนละกัน) การกินข้าวของผมระยะหลังๆก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ก่อนผมแทบจะเป็นเหมือนผู้ดี กินเนิ่บๆ สาดส่องสายตา ไปรอบๆ เพื่อให้อาหารย่อยไปเรื่อยๆ แต่ไม่รุเป็นเพราะสภาพอากาศโลกที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ หรือไง ทำให้ผมกลายเป็นคนกินติดเจ็ท ซวบๆๆๆ หมดจาน ทั้งที่กระเพาะน้อยยังไม่ทันได้ย่อยเม็ดข้าวเลยสักเม็ด โอ้วววว ชีวิต

หลังจากแว๊ปมาเจี๊ยะข้าวมื้อสาย ก็ต้องรีบที่จะไปเรียนคาบต่อไปที่เริ่มทันทีหลังคาบแรก (แสดงว่าผมต้องเข้าสายชัวละสินะT.T) ไงๆวิชานี้ก็ต้องเรียนให้ได้ความรุ้ละค๊าบ ................................เร่งเวลา....................................ผลที่ออกก็คือ คาบนี้เขาสอนไรกันเนี่ย ผมเข้าเรียนยังไม่ทันรุเรื่องอะไรเลยเนี่ยจบไปอีกคาบละ สิ่งนี้ทำให้ผมเริ่มที่จะวาดภาพอนาคตได้ลางๆ ฮึๆๆๆๆ ยังไงๆก็ A แน่นอนค้าบบบบบบบบบบบบบบบบ พี่น้อง เพื่อนผมก็พาผมมา tripleA ทันที บางคนอาจจะยังไม่รุว่า tripleA คืออะไร มันก็คือแหล่งรวมเด็กชาย ย้ำ เด็กชายผู้ที่ประกอบด้วยความเกรียนเป็นแก่นแท้ของจิตใจ ร้านเกมส์นั่นเอง ดอทเป็นอะไรที่ผมเริ่มอยากจะบำบัดมันแล้วสินะ โอ้วววว

หลังจากนั้น ชีวิตผมก็หมดไปหนึ่่งวันอย่างไม่มีความรู้ แต่ได้ความเกรียนมาเต็มเปี่ยม หลังจากกลับมาถึงบ้านผมก็เริ่มที่จะเปิดคอมมาเล่นอะไรเรื่อยเปื่อย ปล่อยวางสิ่งต่างๆ และเริ่มคิดว่ายังมีอะไรอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมอยากที่จะทำในหนึ่งวันแต่ผมก็ยังไม่ได้ทำมันสักที มีบางอย่างที่ผมอยากจะทำมาก เช่น การไปเที่ยวไหนสักที่ อยากไปเดินเที่ยว อยากมีเวลาให้บางสิ่งบางอย่าง อยากที่จะบอกอะไรสักอย่างกับคนบางคน อยากที่จะนอนพักเยอะๆ อยากเล่นบอล บาส กับเพื่อนๆ แต่สิ่งเหล่านี้ผมก็ยังไม่ได้ทำในวันนึงเลย เห้อออออออ

ถ้าคุณอ่านแล้วคิดว่าชีวิตคล้ายๆผมแล้วละก็ คุณต้องไปจัดเวลาใหม่แล้วละ ฮ่าๆๆ เพราะว่าชีวิตแบบนี้มันทำให้ขาดหลายๆสิ่งหลายๆอย่างไปมากเลย ดังนั้น อยากทำไรละก็ต้องรีบทำซะละ โย่วๆ

เด๋วจะมาเขียนเรื่องอื่นอีกนะ (ถ้าว่างๆ แหะๆ)

^^ thx เด้อ

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ชีวิตน้อยในโลกใบใหญ่

เรื่องนี้ เป็นเรื่องสั้นที่ผมแต่งตอนม.ปลาย ขอให้หนุกตามเด้อ ^^

“กรี๊ด......แม่คะหนูกลัว” หนูน้อยวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเธอเพิ่งเจอปิศาจร้ายจากดินแดนมืดอันน่าสยดสยอง

“ทำไมทุกคนต้องทำแบบนี้กับเรา” เขาคิดแล้วเขาก็เดินต่อไป เพื่อที่จะไปให้ทันรถไฟเที่ยวสุดท้ายที่จะมุ่งหน้าไปสู่สาธิตฯ ดินแดนอันสงบที่ใครต่อใครใฝ่ฝันว่าจะย่างก้าวเข้าไป พอมาถึงรถไฟเขาก็รีบจองที่ว่างตรงมุมมืดของรถไฟ ที่ที่จะได้ไม่ต้องทำตัวให้ใครเกลียดแม้ว่าเขาจะไม่เคยทำเช่นนั้นก็ตาม “นี่แหละหนอชีวิต เรามันไม่ได้เกิดมาประเสริฐพอที่จะทำให้ใครต่อใครมารัก ไม่เหมือนกับพวกเศรษฐีในเมืองที่เอาแต่ใช้เงิน ใช้อำนาจจนใครต่อใครก็มารัก มาเคารพ” เขายังคงคิดทบทวนสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับเขาตั้งแต่เขาจากพ่อกับแม่มา “เราต้องทำตัวให้เป็นที่ยอมรับของทุกๆคนให้ได้” เขาบอกกับตัวเอง และให้กำลังใจตนเอง ทั้งๆที่เขายังไม่รู้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง และแล้วเขาก็เผลอหลับไป

“ตัวอะไรเนี่ย มานอนสกปรกแถวนี้ ไปไกลๆ” คนทำความสะอาดรถไฟไล่เขาให้ออกไปจากรถไฟทันที เขาจึงต้องรีบถีบตัวให้หลุดจาก ระยะที่คนทำความสะอาดรถไฟนั้นจะสามารถตีเขาได้ แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะตอนนี้ภายในหัวของเขานั้นมีแต่คำว่าสาธิตฯ “อีกนิดเดียว ต้องไปให้ถึง” เขาบอกตัวเองพร้อมกับเร่งรีบเดินทางต่อ พอผ่านปากประตูสาธิตฯ เขาก็รีบตรงไปยังซอกหลืบตรงห้องน้ำชายตึก 4 ชั้น 2 ห้องในสุด ณ จุดนี้จะเป็นประตูที่สามารถพาเขาไปสู่โลกใหม่ของเขาที่เขาหวังมานาน ถึงกับต้องยอมจากพ่อกับแม่มา

เมื่อมาถึงที่ประตูเขาเห็นป้ายขนาดใหญ่อยู่บนหัวของเขา มันเป็นป้ายสีขาวที่มีตัวหนังสือสีทองที่เขียนไว้ว่า ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนสาธิต กาจั๊วะ ที่นี่คือที่ที่เขาใฝ่ฝันเพราะเขาเป็นแมลงสาบหนุ่มจากชนบทที่อยากมาค้นหาความจริงของคำว่าความจริงใจและการใช้เหตุผล ซึ่งเขาไม่เคยพบเจอจากที่ไหนนอกจากพ่อกับแม่ของเขา แต่เขาก็ไม่อาจอยู่กับพ่อแม่ตลอดไปได้ถ้าเขาต้องการที่จะมีอนาคตที่ดีได้ถ้าเขาไม่ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากโลกภายนอก

พอถึงห้องเรียนของเขา เขาก็ยังคงต้องพบกับแมลงสาบตัวอื่นๆ ที่เอาแต่ดูถูกเขาหาว่าเขาเป็นตัวเชื้อโรค ตัวอัปลักษณ์ ทั้งๆที่ในความจริงแล้วตัวอื่นๆทุกตัวก็ไม่ได้ต่างจากเขา แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเขาได้พบกับแมลงสาบที่มีนิสัยอย่างนี้มาเยอะแล้ว เขาจึงทำเป็นไม่สนใจแต่เขาก็แอบรู้สึกผิดหวังว่าทำไมที่ที่เลิศเลออย่างที่นี่กลับยังมีแมลงสาบที่มีนิสัยอย่างนี้อยู่อีก ทำให้เขารู้ว่าทุกๆแห่งหนยังคงมีแมลงสาบที่มีนิสัยแตกต่างกันอยู่มากมาย ขึ้นอยู่กับว่าเขานั้นจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างได้หรือไม่ และยังคงต้องมีความอดทนควบคู่กันไปด้วย

พอเรียนวิชาแรกเขาก็พบกับข้อแตกต่างทางสังคมที่ยังคงย้ำและซ้ำเติมเขาอีก วิชานั้นคือ วิชาการหลบย่าฆ่าแมลง วิชานี้เขาพบว่าอาจารย์เอาแต่โอ๋ลูกศิษย์รักของตน ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามเพียงเพราะแค่มีเงินมากมาย แต่อาจารย์กลับคอยจ้องว่าแต่เขาทั้งๆที่เขาพยายามเรียนตลอดเวลาต่างจากศิษย์รักของอาจารย์ที่เอาแต่เล่นเวลาเรียน ทำให้เขายังคงต้องอดทนต่อไปอีกแม้ว่าเขาจะถูกสังคมที่มีแต่ความเห็นแก่ตัว และความไม่เป็นธรรมบีบรัดอยู่รอบตัว และชีวิตของเขาก็ยังคงต้องเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกนาน

2 เดือนต่อมา เหตุการณ์ต่างๆรอบตัวได้เปลี่ยนไปมาก เพราะว่าได้มีแมลงสาบสาวแสนสวยที่อยู่ชั้นเดียวกับเขา เธอเป็นแมลงสาบเผือกสายพันธุ์ดีจากอังกฤษ เธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากโรงเรียนฮอกวอร์ต คอคก์โลชฮ์ ที่อยู่ภายในโรงเรียนฮอกวอร์ต หลังจากที่มาโรงเรียนนี้ได้ไม่นานเธอก็ได้กลายเป็นดาวโรงเรียนซึ่งใครก็อยากจะรู้จักกับเธอ แต่ทุกคนนั้นก็ไม่ได้มีความจริงใจอะไรแต่อยากเป็นเพื่อนด้วยเพียงเพราะแค่เธอสวย ทำให้เธอก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตที่มีแต่ความเสแสร้ง เธอจึงไม่ใส่ใจกับอะไรทั้งสิ้น

แต่พอมาวันหนึ่งเขาและเธอก็ได้มาพบกันโดยบังเอิญซึ่งทำให้หลายสิ่งในชีวิตของเขาและเธอเปลี่ยนไป โดยเขาได้ช่วยเธอจากเด็กผู้ชายที่พยายามเอาน้ำฉีดไล่เธอขณะที่เธอได้ออกไปเดินเล่นบริเวณนอกโรงเรียน ทำให้เธอรู้ว่ายังมีคนที่จริงใจช่วยเธอทั้งๆที่เขาไม่รู้และไม่เคยพบเจอเธอมาก่อนเลยโดยไม่คิดถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการบินไปที่หน้าของเด็กน้อยเพื่อที่จะพยายามไล่เด็กคนนั้นไป ต่อมาหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเธอก็ได้ขอบคุณเขา และเป็นเพื่อนสนิทกับเขามาโดยไม่เคยคิดว่าเขาจะน่ารังเกียจเลย อีกทั้งเธอยังชอบแนะนำเขาแก่ทุกๆคนจนทำให้เขาเป็นที่ยอมรับทั่วทุกที่ไป จนทำให้เขาเปลี่ยนภาพลักษณ์จากตัวอัปลักษณ์จนกลายเป็นเหมือนเจ้าชาย

ทั้งหมดจึงเป็นข้อเตือนใจว่าในสังคมรอบๆตัวเรานี้ประกอบไปด้วยอะไรต่างๆมากมาย เราจึงควรที่จะมีความอดทน อดกลั้นต่อไปแล้วสิ่งที่ดีต่างๆก็จะมาหาเราเองสักวัน

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

กลับมาแล้ว ^^

อยุ่ๆก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองมี blog กะเขาด้วยนี่หว่า 555+

เลยกลับมาปั่นมันให้มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง

แต่ช่วงนี้บรรยากาศก็อย่างเซง ลมหนาวพัดเข้ามา แล้วก็ผ่านไป ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลิ้มรสความหนาวเล้ยย

T^T คนละอุตส่าเอาเสื้อกันหนาวออกมาปัดฝุ่น แล้วก็ต้องเก็บอีกละ(กว่าจะได้เหนมัน ก็เป็นปีอ่ะ)

เอาละวันนี้เขียนแค่นี้ก่อนดีกว่า ไว้มีเรื่องไรหนุกๆจะมาเขียนอีกเด้อ

โย่วๆ

วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2551

การเปิดตัว blog อันแรก ในชีวิตของโผ้มมมมมมม...........

ไมมันดูเงียบหง่อยอ่ะ ไม่รุจะลงอะไรอ่ะ


งั้น ขอ จบบทความแรกแค่นี้ก่อนดีกว่าค้าบบ 555+